Latest Posts

หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของเราทางอีเมลที่ หรือ ทาง LiveChat

ใช่ โปรดไปที่หน้า Trading Alerts (การแจ้งเตือนการเทรด) ของเราและเลือกเข้าร่วมช่องทางที่เราเปิดให้บริการเพื่อรับการแจ้งเตือนการเทรดฟรีของเรา หากคุณเป็นเจ้าของบัญชี VIP โปรดคลิกที่ Access VIP Alerts Channel บนเว็บไซต์ของเรา หากคุณไม่ใช่เจ้าของบัญชี VIP แต่ต้องการร่วมเป็นหนึ่งในนั้นเพื่อค้นหาประโยชน์ของการเทรดด้วยบัญชี VIP และเข้าถึง Access VIP Alerts Channel ของเราโดยเฉพาะ โปรดติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าทางโทรศัพท์, LiveChat หรืออีเมลเพื่อนัดหมายโทรศัพท์กับหนึ่งในผู้จัดการบัญชีของเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเปิดบัญชี VIP

CFD ย่อมาจาก ‘Contract for Difference’ (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) แทนที่จะเจรจาหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทางการเงินในทางกายภาพ (เช่น ซื้อหรือขายหุ้นของบริษัทจริง) CFD เป็นธุรกรรมที่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะแลกเปลี่ยนเงินบนพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงมูลค่า (ราคา) ของสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างจุดที่เปิดสถานะและช่วงเวลาที่ปิดสถานะ ด้วยความที่ CFD นั้นไม่มีจำนวนคงที่ เมื่อคุณทำคำสั่งซื้อขาย คุณจะต้องพิจารณาว่า 1 pip จะมีมูลค่าเป็นเท่าใด ในขณะที่สถานะของคุณเปิดอยู่ ผลกำไรหรือการขาดทุนของคุณจะถูกกำหนดโดยเกณฑ์นี้ สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า CFD เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ ซึ่งหมายความว่าคุณจ่ายเฉพาะมาร์จิ้น (หลักประกัน) ซึ่งสอดคล้องกับส่วนหนึ่งของมูลค่าสถานะจริงเพื่อเปิดการเทรด นอกจากนี้การใช้เลเวอเรจยังหมายความว่าคุณจะต้องฝากเงินเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการเทรดทั้งหมดเพื่อเปิดสถานะ สิ่งนี้เรียกว่า “การเทรดมาร์จิ้น” แม้ว่าการเทรดด้วยมาร์จิ้นจะช่วยให้คุณสามารถขยายผลตอบแทนของคุณได้ แต่ก็อาจมีโอกาสขาดทุนเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากจะขึ้นอยู่กับมูลค่าเต็มของสถานะ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเทรด CFD ก่อนทำคำสั่งซื้อขาย

เริ่มต้นด้วยการคลิกที่ ‘New Order’ (คำสั่งใหม่) ในแถบเครื่องมือหรือโดยการคลิกขวาที่สินทรัพย์ที่คุณต้องการในแท็บ Market Watch กด CTRL+U เพื่อเปิดหน้าต่างชื่อย่อและเลือกสินทรัพย์อ้างอิงที่คุณต้องการ ปรับขนาดสถานะของคุณโดยกำหนดจำนวนล็อตที่คุณต้องการเทรดบนแท็บ Volume (ปริมาณ) ณ จุดนี้ คุณอาจต้องการกำหนดค่า Stop-Loss หรือ Take-Profit limits สูงสุดของคุณ เพื่อให้สถานะของคุณปิดโดยอัตโนมัติเมื่อถึงระดับเหล่านี้ คลิก ‘BUY’ (ซื้อ) หากคุณคิดว่าราคาของสินทรัพย์ที่คุณเลือกจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คลิก ‘SELL’ (ขาย) หากคุณคิดว่าราคาของสินทรัพย์ที่คุณเลือกจะมีมูลค่าลดลง ในแอป MT4 เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการเทรด จากนั้นคลิกที่ ‘Trade’ (เทรด) หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของเราทางอีเมลที่ , ทางโทรศัพท์, LiveChat

เริ่มต้นด้วยการคลิกที่ ‘New Order’ (คำสั่งใหม่) ในแถบเครื่องมือหรือโดยการคลิกขวาที่สินทรัพย์ที่คุณต้องการในแท็บ Market Watch กด CTRL+U เพื่อเปิดหน้าต่างชื่อย่อและเลือกสินทรัพย์อ้างอิงที่คุณต้องการ ปรับขนาดสถานะของคุณโดยกำหนดจำนวนล็อตที่คุณต้องการเทรดบนแท็บ Volume (ปริมาณ) ณ จุดนี้ คุณอาจต้องการกำหนดค่า Stop-Loss หรือ Take-Profit limits สูงสุดของคุณ เพื่อให้สถานะของคุณปิดโดยอัตโนมัติเมื่อถึงระดับเหล่านี้ คลิก ‘BUY’ (ซื้อ) หากคุณคิดว่าราคาของสินทรัพย์ที่คุณเลือกจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คลิก ‘SELL’ (ขาย) หากคุณคิดว่าราคาของสินทรัพย์ที่คุณเลือกจะมีมูลค่าลดลง ในแอป MT5 เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการเทรด จากนั้นคลิกที่ ‘Trade’ (เทรด) หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของเราทางอีเมลที่ , ทางโทรศัพท์ หรือ LiveChat

มาร์จิ้น คือ เงินประกันซึ่งอย่างน้อยที่สุดก็จำเป็นต้องใช้ในการเปิดการเทรด โดยทั่วไปมาร์จิ้นคือจำนวนเงินที่คุณกำลังนำไปใช้ในการเทรดบางรายการ และที่สำคัญยังเป็นจำนวนเงินที่คุณพร้อมที่จะสูญเสียหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ นอกจากนี้มาร์จิ้นยังเป็นคำที่ใช้สำหรับจำนวนเงินที่คุณต้องเก็บไว้ในบัญชีของคุณเพื่อรักษาสถานะ ซึ่งเรียกว่า มาร์จิ้นรักษาสภาพ ท้ายที่สุด หากสถานะของคุณดูเหมือนว่าจะล้างบัญชีของคุณ จะมีจุดที่สถานะนั้นจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ ซึ่งเรียกว่ามาร์จิ้นสต็อปเอาท์ ในการรักษาสถานะต่างๆ ที่เปิดอยู่ คุณสามารถป้องกันการปิดสถานะของคุณอัตโนมัติได้โดยการฝากเงินเพิ่ม

สเปรด (ส่วนต่างราคาซื้อขาย) คือ ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายสินทรัพย์ CFD อ้างอิง ซึ่งมักเรียกว่าราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย คุณสามารถคิดว่าสเปรดเป็นค่าใช้จ่ายในการเทรดสำหรับการเปิดสถานะ สเปรดที่ต่ำลงโดยพื้นฐานแล้วสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเทรดของคุณได้ ซึ่งจะทำให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นหรือการขาดทุนน้อยลง หลังจากที่คุณปิดสถานะของคุณ ตัวอย่างเช่น หากราคา BID (เสนอซื้อ) คือ 1.2634 และราคา ASK (เสนอขาย) คือ 1.2636 สเปรดคือส่วนต่างระหว่างทั้งสองราคาดังกล่าว ซึ่งจะเท่ากับ: 2 pips

ทุกตราสารมีราคา BUY (ซื้อ) และราคา SELL (ขาย) ส่วนต่างระหว่างราคานั้นเรียกว่าสเปรด และเรามีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากการเทรดแต่ละครั้งทันทีที่คุณเปิดการเทรด อัตราปัจจุบันที่แสดงคืออัตราที่สถานะจะปิด ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเปิดการเทรด BUY จะเปิดที่ราคา BUY และปิดที่ราคา SELL เมื่อคุณเปิดการเทรด SELL จะเปิดที่ราคา SELL และปิดที่ราคา BUY เนื่องจากส่วนต่างระหว่างสองอัตรา การเทรดใหม่จึงมักจะแสดงให้เห็นการขาดทุนทันที

ให้คุณเปิดบัญชีเดโม่หรือบัญชีทดลองประเภท VIP, และ/หรือ Classic เพื่อทดลองใช้เครื่องมือและเงื่อนไขสำหรับบัญชีแต่ละประเภท ในการเปิดบัญชีทดลอง เพียงทำตามขั้นตอนการลงทะเบียนของเราให้เสร็จสมบูรณ์ และไปที่แดชบอร์ดของคุณเพื่อทดสอบทักษะการเทรดของคุณบนบัญชีทดลองประเภทเริ่มต้นอย่าง Demo Classic (FX MT4) หรือเลือก “เพิ่มบัญชีใหม่” และเลือกว่าคุณต้องการเปิดบัญชีทดลองประเภท DEMO VIP หรือ DEMO หากต้องการเปิดบัญชีทดลองผ่านโทรศัพท์มือถือ ให้ไปที่แดชบอร์ดแล้วเลือกเครื่องหมาย + (บวก) โปรดทราบว่าคุณสามารถเปิดบัญชีทดลองได้เพียงบัญชีเดียวต่อประเภทบัญชี แต่คุณสามารถรีเซ็ตเลเวอเรจและยอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณได้ตลอดเวลา หากต้องการสมัครบัญชีทดลองฟรี ให้คลิกที่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนกับแอป เพื่อเพิ่มบัญชีทดลอง